http://www.manager.co.th/
http://mozart2002-today.blogspot.com
วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
รวมลิงค์ที่น่าสนใจ
เขียนโดย ครู องุ่น ที่ 21:04 0 ความคิดเห็น
อีกหลายร้อยหมื่นพัน...ที่ครูนั้นแสนประทับใจ
อีกหลายร้อยหมื่นพัน...ที่ครูนั้นแสนประทับใจ
เรื่องที่ 2 ก้าวแรก...ของความเป็นครู
......."ครูบาฆูมาฆี"ก้าวแรกที่ครูได้ทำหน้าที่แม่พิมพ์ของชาติ ทุกสายตาใสซื่อบริสุทธิ์ ส่องประกายมาถึงครู
ลูกศิษย์ตัวน้อยๆมารายล้อมรอบตัวครู จนครูใหม่รู้สึกเขินอย่างบอกไม่ถูก ศิษย์ส่งเสียงเซ็งแซ่จนครูฟังไม่ได้ศัพท์ เพราะเป็นภาษาที่ครูไม่ค่อยคุ้นชินแต่ความรู้สึกรับรู้ได้ว่าศิษย์รักและตื่นเต้นกับครูคนใหม่เสียเหลือเกิน
วันแรกที่ได้ทำการสอนครูได้รับหน้าที่ให้สอนในระดับชั้นอนุบาลซึ่งนับว่าท้าทายความสามารถของครูยิ่งนัก เพราะครูต้องตีความหมายของภาษาและท่าทางอยู่ตลอดเวลา วันแรกก็รู้สึกท้อ เหนื่อย แต่ก็มีความสุขมากๆ สุขที่ได้ทำหน้าที่ของครู.....ครูผู้ให้ ให้ความรัก ความ ห่วงใย ความจริงใจ และความปรารถนาดีกับศิษย์ทุกๆคน
รุ่งเช้าของทุกวันศิษย์ตัวน้อยๆ จะยืนเกาะริมรั้วหน้าประตู สายตาแสนซื่อส่งประกายตื่นเต้นดีใจเมื่อครูขี่รถจักรยานยนต์มาถึง ทุกคนต่างวิ่งกรูมาเกาะแขนครูด้วยความดีใจ ความรัก ความห่วงใยที่ศิษย์ส่งผ่านมาทุกวี่ทุกวัน ทำให้ครูมีกำลังใจและคิดได้ว่าผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่งเมื่ออยู่ในห้วงแวดล้อมของศิษย์ตัวน้อยๆเหล่านี้ก็มีค่าได้มากมายเช่นกัน ทุกครั้งที่ครูท้อใจ ไม่มีใครต้องการหรือไม่มีใครเห็นค่า...แต่ครูก็ไม่เคยรู้สึกโดดเดี่ยวถ้ามีพวกหนูคอยอยู่เคียงข้างอย่างนี้..ตลอดเวลา ขอบคุณมากที่ทำให้ครูได้คิดและครูจะทำตัวเองให้มีค่ามากที่สุดให้สมกับคำว่า..ครู
อีกหนึ่งภาษา...ที่น่าเรียนรู้
บาฆู หมายถึง ใหม่
มาฆี หมายถึง มา
แกแจ๊ะ หมายถึง พูด
อยากส่งกำลังใจ....ให้ใครๆที่ท้อแท้
คติสอนใจ
*ถ้าเราเจองานหนักนั่นหมายถึง
โอกาสเตรียมพร้อมสู่มืออาชีพ*
*ถ้าเราเจอทุกข์หนัก
นั่นคือแบบฝึกหัด
ที่จะทำให้เราเกิดทักษะ*
$ถ้าเราเจอคำตำหนิ
นั่นคือการชี้ถึง
ขุมทรัพย์อันมหาศาล$
#ถ้าเราเจอคำนินทานั่นสะท้อนว่า
เรายังเป็นคนที่มีความหมาย#
&ถ้าเราเจอความผิดหวัง
นั่นคือวิถีทางที่ธรรมชาติ
พยายามสร้างภูมิคุ้มกัน&
@ถ้าเราเจอวิกฤตเราต้องคิดว่า
ในวิกฤตนั้นยังมีโอกาส@
#ถ้าเราถูกศัตรูกลั่นแกล้ง
เราต้องคิดว่าถ้ามารไม่มี
บารมีก็จะไม่เกิด#
@@@@@@@@@@@@@@@@@
เขียนโดย ครู องุ่น ที่ 20:40 2 ความคิดเห็น
วันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
หนึ่งในอีกหลายหมื่นพัน....ที่ครูนั้นแสนประทับใจ เรื่องที่1
หนึ่งในอีกหลายหมื่นพัน....ที่ครูนั้นแสนประทับใจ
เรื่องที่1
วันหนึ่งครูได้เจอไลลาอย่างบังเอิญ สิบหกปีที่ผ่านมาแววตาดุๆที่แฝงเร้นไปด้วยความจริงใจติดตาครูอยู่ตลอดเวลา เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆหน้าตาดุๆสามารถควบคุมเด็กห้องอนุบาลได้ทั้งห้องแม้แต่เด็กผู้ชายที่แสนดื้อและซุกซนอย่างอับดุลเลาะห์ยังสยบกับหล่อน ทุกครั้งที่ครูใหม่อย่างครูส่งภาษากับศิษย์ตัวน้อยๆในห้องไม่รู้เรื่อง แล้วศิษย์รุมอธิบายด้วยเสียงอันดังเซ็งแซ่ไลลาหรือลาวาตีตัวน้อยซึ่งสามารถฟังภาษาของครูได้ดีกว่าใครอื่น จะส่งเสียงดังเป็นภาษาของหล่อนเพื่อจะช่วยคุณครูปราบเพื่อน ทุกคนนั่งเงียบเป็นปลิดทิ้งครูทึ่งกับความสามารถของไลลาและแอบมั่นใจว่าต่อไปเด็กคนนี้จะมีอนาคตที่ดี ไลลาจะเป็นเด็กรักดีและมีน้ำใจมากมาย และเป็นผู้ใหญ่เกินตัว ชอบช่วยเหลือและอาสาที่จะทำงานให้ครูโดยไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย ทุกครั้งที่ครูมาถึงโรงเรียนในตอนเช้าไลลาจะรีบวิ่งมาช่วยถือของในมือครูอย่างกุลีกุจอหลังจากนั้นจะไปชวนเพื่อนๆมาช่วยกวาดห้องอย่างขมีขมันโดยไม่ต้องมีใครใช้หรือไหว้วาน ครูเห็นความรักความหวังดีและจิตใจที่บริสุทธิ์ของศิษย์รักที่ส่งผ่านมาถึงครูทุกวี่ทุกวัน ครูเลยตั้งปณิธานไว้ในใจว่าครูจะรักจริงใจและสอนศิษย์ทุกคนให้ดีที่สุดด้วยจิตและวิญญาณของความเป็นครูที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม
ความคิดของครูล่องลอยไปไกล ครูรีบดึงความคิดกลับมา ข้างหน้าครูเด็กที่อยู่ในอ้อมแขนของครูในขณะนี้คือเด็กผู้หญิงคนนั้น คนที่ครูคิดถึงอยู่ตลอดเวลา ขณะนี้ไลลาเป็นเด็กหน้าตาจิ้มลิ้มอยู่ภายใต้ผ้าคลุมผมที่ปิดสนิทแต่ครูก็ยังเดาออกว่าหนูเป็นเด็กผู้หญิงที่สวยมากสายตาสวยเผ็ดดุของหนูก็ยังเหมือนเดิมเคลือบแฝงไปด้วยความรัก จริงใจ และมีความมุ่งมั่นอยู่ในที
ครูรีบถามถึงสารทุกข์สุขดิบ สุดท้ายครูถามเรื่องการเรียน ไลลายิ้มกว้างด้วยความภาคภูมิใจแล้วตอบครูด้วยเสียงดังฟังชัดเหมือนสิบหกปีที่ผ่านมาว่า "หนูเพิ่งกลับจากรายงานตัวค่ะครูหนูสอบพยาบาลได้" ครูรู้สึกเบาหวิวด้วยความภาคภูมิใจแทนไลลาพร้อมทั้งยังได้ยินเสียงไลลากล่าวต่อไปว่า"ครูเป็นผู้จุดประกายให้หนู ครูเคยบอกหนูกับเพื่อนๆว่าให้พวกหนูวิ่งตามฝันและฝันให้ไกล ไปให้ถึง วันนี้หนูตามฝันของหนูทันแล้วค่ะครูและคนที่หนูอยากเล่าให้ฟังมากที่สุดก็คือครู และหนูก็ได้เจอครูจริงๆด้วยหนูรู้สึกเหมือนฝันเลยค่ะ" ครูงงอย่างบอกไม่ถูกเด็กอนุบาลคนหนึ่งฝังใจกับคำสั่งสอนของครูและพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อไปตามทางแห่งฝันนั้นจนประสบความสำเร็จ ครูรู้แค่นี้ครูก็รู้สึกดีใจและตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก สิบหกปีที่ผ่านมาแค่ครูใหม่คนหนึ่งซึ่งไม่เคยเห็นค่าของตนเองไม่เคยมีความหมายกับใครเท่าไรนักแต่คำพูดแค่สองสามประโยคสามารถทำให้เด็กอนุบาลน้อยๆหลายคน พยายามยึดคำสั่งสอนและวิ่งไปให้ถึงฝั่งฝันที่ตนวาดหวังไว้จนประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม
นี่แหละ..เพราะครู..คือครู ครูคือผู้ให้และผู้สร้างที่ยิ่งใหญ่ สร้างชีวิตและจิตวิญญาณที่ดีให้เกิดขึ้นกับศิษย์น้อยๆ
เรือจ้างลำนี้ ถึงแม้จะไม่มีราคาค่างวดอะไรมากมาย แต่ก็สามารถแจวฝ่าอุปสรรคขวากหนามจนนำพาศิษย์ขึ้นฝั่งปีแล้วปีเล่า เจอฝน เจอพายุที่โหดร้าย เจอตอไม้ทิ่มแทงเรืออย่างไรก็ไม่หวั่น ทั้งๆที่บางครั้งช้ำสุดช้ำ ร้องเกินร้อง ท้อจนไม่อยากลุก แต่...เมื่อหันไปมองผู้โดยสารที่นั่งตาใสแจ๋วมองมาด้วยความรักจริงใจและเชื่อมั่นเรือลำเดิมเลยต้องจำใจฝืนจ้ำพายต่อไปอย่างไม่กลัวเกรง เพียงเพื่อผู้โดยสารใสซื่อบริสุทธิ์เหล่านั้นจะถึงฝั่งฝันได้อย่างดีปลอดภัยที่สุด
จบเรื่องที่ 1 ขอบใจมากจ้ะไลลาศิษย์รัก
อีกหนึ่งภาษา...ที่น่าเรียนรู้
ฆี หมายถึง ไป
ฆีกานอ หมายถึง ไปไหน
สกอเราะฮ์ หมายถึง โรงเรียน
* หมายเหตุ ผู้เขียนอาจจะเขียนผิดไปบ้างต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย เพราะผู้เขียนได้เขียนตามน้ำเสียงที่ได้ยินมา*
เขียนโดย ครู องุ่น ที่ 21:00 0 ความคิดเห็น
วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
สิบหกปีที่...... แจวเรือ
จากเสี้ยวหนึ่งความรู้สึกที่ลึกล้ำ
เฝ้าตอกย้ำคำว่าครูผู้สั่งสอน
รักด้วยใจห่วงใยเจ้าเฝ้าอาวรณ์
ศิษย์ทุกข์ร้อนครูปัดเป่าทุกเช้าเย็น
เพียงอยากให้ใส่ความรู้คู่ความรัก
มิเคยจักเรียกร้องต้องได้เห็น
เพียงเพราะให้เพราะอยากให้ไม่ลำเค็ญ
ขอศิษย์เป็นเพียงคนดีแค่นี้พอ
เรือเก่าแจวเหมือนเรือจ้างกลางน้ำหลาก
แม้นทุกข์ยากลำบากใจไม่ร้องขอ
ลุยฝ่าคลื่นฝืนสู้ไปไม่รีรอ
น้ำตาคลอหนาวเหน็บเจ็บจำทน
ศิษย์มากมายนั่งเรียงรายหมายขึ้นฝั่ง
ครูมิยั้งยังจ้ำมาฝ่าสายฝน
ครูจะส่งตรงฝั่งฝันทันทุกคน
แม้นเหนื่อยจนแทบขาดใจก็ไม่กลัว
เขียนโดย ครู องุ่น ที่ 13:22 0 ความคิดเห็น
ครูขา.....ลูกไม่อยากให้ครูเดินคนเดียว
ครูขา
........วันเสาร์ที่ผ่านมาครูได้เดินทางไปเยี่ยมบ้านหนูๆ ครูอยากไปให้ทุกหลังแต่ก็จำกัดไปด้วยเวลาและเหตุการณ์ ใช่สิ ครูเป็นครูคนหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่ที่เสี่ยงมากครูอยู่ในแถบสี่อำเภอในจังหวัดสงขลา อันตรายก็เหมือนๆกับเพื่อนครูในสามจังหวัดภาคใต้นั่นแหละ แต่ทำไมครูต้องไปเยี่ยมบ้านพวกหนูเหรอะ (ทั้งๆที่ครูสามารถจะฝากข้อมูลให้ผู้ปกครองหนูกรอกมาให้ครูก็ได้ แต่ ครูไม่ทำอย่างนั้น) ที่ทำทั้งหมดก็แค่เพียงครูอยากบอกให้หนูรู้ว่าความรู้สึกของครูอย่างพวกครูคืออะไร คือรัก ห่วงใย จริงใจ และหวังดีกับหนูด้วยใจที่บริสุทธิ์จริงๆ ครูอยากบอกพวกหนูทุกคนว่าครูรักพวกหนูมากมายแค่ไหน ครูก็เหมือนแม่ของพวกหนูคนหนึ่งที่เฝ้ารักห่วงใยหนูมากๆเหมือนกับที่ครูรักและห่วงใยลูกครูไงล่ะ
.........ระยะทางที่ไปบ้านพวกหนูก็ค่อนข้างอันตรายเป็นอย่างยิ่งครูได้แต่ภาวนาไหว้พระสวดมนต์ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์จงคุ้มครอง ครูไม่เคยพกพาอาวุธสิ่งที่ครูพกพาอยู่ตลอดเวลาคือความดีที่ครูได้สรรค์สร้างและปลูกฝังให้กับพวกหนูๆ เมื่อไปถึงบ้าน พวกหนูวิ่งล้อมหน้าล้อมหลังครูเป็นสิบๆคน ครูเห็นแล้วครูรับความรู้สึกได้ถึงความรักที่พวกหนูส่งผ่านมา น้องปอหนึ่งคนหนึ่งเอื้อมมือมากอดเอวครูแล้วบอกครูว่า ครูขา..ลูกเดินเป็นเพื่อนครูค่ะ ทุกคนที่เหลือประสานเสียงพร้อมกันว่า ลูกด้วยค่ะ ลูกไม่อยากให้ครูเดินคนเดียวค่ะ น้องปอสองเอื้อมมือมารับกระเป๋าถือของครูแล้วพูดว่าครูขาลูกถือให้ค่ะ ครูส่งให้หนูไปด้วยความรู้สึกซาบซึ้ง อีกคนรีบพูดตามขึ้นว่าครูขาลูกถือหมวกให้ค่ะ เพราะเขาเห็นครูกระเดียดหมวกไว้ด้านซ้ายกระเดียดเอกสารไว้มือขวาพะรุงพะรัง ครูยื่นให้หนูอีกหนูรีบหยิบไปด้วยความภาคภูมิใจที่สามารถช่วยเหลือครูได้
...........ทุกบ้านทุกหลังต้อนรับครูด้วยน้ำใจที่ดีที่สุด เลือกสิ่งที่ดีที่สุดมาคอยต้อนรับครู ขนมนมเนย ผลหมากรากไม้นานาชนิด ครูอิ่มมาก แต่ที่อิ่มที่สุดคือใจที่อิ่มเอิบ ครูรู้ทุกคนยากจนแถมยังมากด้วยแต่ทุกคนไม่ยอมจนกับคำว่าน้ำใจ ครูเดินไปสิบกว่าหลังฝนเทลงมาอย่างหนักหนูๆรีบจับมือครูแล้วลากให้วิ่งเพื่อจะหลบฝนแต่ยังอีกไกล ลูกกคนที่ถือหมวกรีบส่งหมวกมาให้แล้วพูดเสียงดังว่า เร็วครู สวมหมวก ลูกกลัวครูไม่สบาย ครูรีบถามกลับไปด้วยความซาบซึ้งอีกหนว่า แล้วลูกล่ะ เขารีบตอบกลับมาว่า ลูกตากฝนบ่อยลูกไม่เป็นอะไรหรอกค่ะแต่ลูกกลัวครูจะไม่สบาย ครูหันไปรับหมวกแต่ครูไม่สวมหรอกลูก ถ้าหนูไม่สบายครูก็ยอมไม่สบายเป็นเพื่อนหนูนะลูกรักของครู
เขียนโดย ครู องุ่น ที่ 12:20 1 ความคิดเห็น
วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
เพราะครู...คือครู
เขียนโดย ครู องุ่น ที่ 14:33 0 ความคิดเห็น